แนะวิธีดูแลรักษา Pod System ให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

Pod System เป็นบุหรี่ไฟฟ้าประเภทหนึ่งที่มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ใช้งานง่าย และได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากมีจุดเด่นหลายประการ เช่น ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเทียบเท่ากับบุหรี่มวน มีน้ำยาให้เลือกหลากหลายรสชาติ และราคาไม่แพงมาก อย่างไรก็ตาม Pod System ก็มีชิ้นส่วนที่บอบบางที่ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม เพื่อให้ใช้งานได้นานและมีประสิทธิภาพสูงสุด บทความนี้จึงขอแนะนำวิธีดูแลรักษา Pod System ให้ใช้งานได้นาน ดังที่จะกล่าวต่อไปนี้  

วิธีการเก็บรักษา Pod System ให้เหมาะสม สูบได้นาน

  1. ควรเก็บในที่แห้งและเย็น

ความชื้นและความร้อนเป็นศัตรูของ Pod System ความชื้นอาจทำให้น้ำยาระเหยเร็วขึ้นและทำให้วงจรภายในเสียหาย ความร้อนอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ดังนั้นจึงควรเก็บ Pod System ในที่แห้งและเย็น เช่น อุณหภูมิห้องหรือตู้เย็น ส่วนความชื้นในอากาศอาจทำให้น้ำยาระเหยเร็วขึ้น เนื่องจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่เป็นน้ำ น้ำยาที่ระเหยเร็วขึ้นจะทำให้รสชาติของน้ำยาเปลี่ยนไป และอาจทำให้คอยล์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น

นอกจากนี้ ความชื้นอาจทำให้วงจรภายในของ Pod System เสียหายได้ เนื่องจากวงจรภายในของ Pod System ส่วนใหญ่ทำจากพลาสติกและโลหะ ซึ่งอาจเกิดสนิมหรือเสียหายได้หากสัมผัสกับความชื้นเป็นเวลานาน จนไปถึงความร้อนอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น เนื่องจากแบตเตอรี่ของ Pod System ส่วนใหญ่ทำจากลิเธียมไอออน ซึ่งมีความไวต่อความร้อน หากแบตเตอรี่สัมผัสกับความร้อนเป็นเวลานาน อาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพและอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ทั้งนี้ความร้อนยังอาจทำให้น้ำยาระเหยเร็วขึ้น และอาจทำให้คอยล์เสื่อมสภาพเร็วขึ้นได้เช่นกัน

ในการเก็บ Pod System ในที่แห้งและเย็น ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความชื้นและความร้อนโดยตรง เช่น การทิ้ง Pod System ไว้ในที่ที่มีฝนตกหรือในที่ที่มีแดดส่องถึง เก็บ Pod System ไว้ในกล่องหรือถุงซิปล็อคที่ปิดสนิท เพื่อป้องกันการสัมผัสกับความชื้นและฝุ่นละออง และเก็บ Pod System ไว้ในอุณหภูมิห้องหรือตู้เย็น อุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการเก็บ Pod System คือ 15-25 องศาเซลเซียส

  1. ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ Pod System จนเต็ม 100%

แบตเตอรี่ของ Pod System โดยทั่วไปจะเป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ซึ่งแบตเตอรี่ชนิดนี้จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่น ๆ แต่ก็สามารถเสื่อมสภาพได้เช่นกัน การชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% บ่อย ๆ จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น เนื่องจากเซลล์แบตเตอรี่จะทำงานหนักเกินไปและเกิดความร้อนสะสม ซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่เกิดการลัดวงจรและระเบิดได้ ดังนั้น การชาร์จแบตเตอรี่ Pod System ควรชาร์จจนเต็มประมาณ 80-90% ก็เพียงพอแล้ว และควรถอดแบตเตอรี่ออกเมื่อชาร์จเต็มแล้ว ไม่ควรปล่อยให้ชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้นเช่นกัน 

นอกจากนี้ ยังมีวิธีดูแลรักษา Pod System ให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น เช่น หลีกเลี่ยงการตกหล่นหรือกระแทก เพราะอาจทำให้ตัวเครื่องเสียหายได้ เก็บรักษา Pod System ในที่แห้งและเย็น หรือทำความสะอาด Pod System เป็นประจำ เพื่อขจัดคราบสกปรกและฝุ่นละออง และเปลี่ยนหัวพอตเมื่อน้ำยาหมดหรือหมดอายุการใช้งาน

  1. ควรเปลี่ยนคอยล์ Pod System ให้เหมาะสม

คอยล์ Pod System เป็นชิ้นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งาน Pod System โดยคอยล์มีหน้าที่แปลงพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ให้เป็นความร้อนเพื่อระเหยน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า คอยล์ที่ดีจะให้รสชาติและกลิ่นที่ชัดเจน ไอน้ำที่นุ่มนวล และที่สำคัญคือมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

หากคอยล์เสื่อมสภาพหรือหมดอายุการใช้งานแล้ว จะทำให้รสชาติและกลิ่นของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนไป ไอน้ำที่ออกมาจะมีความเข้มและร้อนขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้งานรู้สึกแสบคอและระคายเคือง นอกจากนี้ คอยล์ที่หมดอายุการใช้งานแล้วยังอาจเกิดปัญหารั่วซึม ทำให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไหลออกมาภายนอก ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อ Pod System ได้

ดังนั้น จึงควรเปลี่ยนคอยล์ Pod System ให้เหมาะสม โดยคอยล์แต่ละชนิดจะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยทั่วไปแล้ว คอยล์สำหรับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า Freebase จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 วัน ส่วนคอยล์สำหรับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า Salt Nicotine จะมีอายุการใช้งานประมาณ 1-2 วัน

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่ออายุการใช้งานของคอยล์ Pod System อีกด้วย เช่น ปริมาณการสูบ ชนิดของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และความแรงของแบตเตอรี่ โดยหากสูบบ่อย ๆ หรือใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินสูง ก็จะทำให้คอยล์เสื่อมสภาพเร็วขึ้นเช่นกัน วิธีสังเกตว่าคอยล์ Pod System เสื่อมสภาพแล้วหรือไม่ มีดังนี้

  • รสชาติและกลิ่นของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนไป
  • ไอน้ำที่ออกมามีความเข้มและร้อนขึ้น
  • เกิดปัญหารั่วซึม
  • มีอาการแสบคอและระคายเคือง

หากพบว่าคอยล์ Pod System มีอาการเหล่านี้แล้ว ควรเปลี่ยนคอยล์ใหม่ทันที เพื่อรักษาประสิทธิภาพการใช้งานของ Pod System และป้องกันการเกิดปัญหาที่อาจตามมา

  1. ควรทำความสะอาด Pod System อย่างสม่ำเสมอ

การทำความสะอาด Pod System อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยขจัดคราบสกปรกและฝุ่นละอองที่อาจสะสมอยู่ภายในตัวเครื่อง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการใช้งาน Pod System ได้ ดังนี้

  • รสชาติและกลิ่นของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอาจเปลี่ยนไป
  • ไอน้ำที่ออกมาอาจไม่นุ่มนวล
  • เกิดการรั่วซึม
  • แบตเตอรี่อาจเสื่อมสภาพเร็วขึ้น

นอกจากนี้ การทำความสะอาด Pod System ยังช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคและแบคทีเรียสะสมอยู่ภายในตัวเครื่อง ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ วิธีการทำความสะอาด Pod System อย่างง่าย ๆ มีดังนี้

  1. ถอดแยกชิ้นส่วน Pod System ออก
  2. ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดภายนอกตัวเครื่อง
  3. ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มทำความสะอาดภายในตัวเครื่อง โดยเฉพาะบริเวณคอยล์และรูลมหายใจ
  4. เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
  5. ประกอบ Pod System กลับเหมือนเดิม

ควรทำความสะอาด Pod System อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือบ่อยกว่านั้นหากสูบบ่อย ๆ หรือใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีรสหวานหรือมีสารให้ความหวานสูง หาก Pod System มีคราบสกปรกหรือฝุ่นละอองที่ฝังแน่น อาจใช้น้ำยาล้างบุหรี่ไฟฟ้าหรือแอลกอฮอล์ล้างแผล เช็ดทำความสะอาดได้ แต่ควรระวังไม่ให้น้ำยาหรือแอลกอฮอล์สัมผัสกับแบตเตอรี่ เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่เสียหายได้

        5. ควรหลีกเลี่ยงการตกหล่น

การหลีกเลี่ยงการตกหล่น Pod System เป็นวิธีดูแลรักษา Pod System ให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น เพราะการตกหล่นหรือกระแทก อาจทำให้ตัวเครื่องเสียหายได้ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการใช้งาน Pod System ดังนี้

  • หน้าจออาจแตกหรือเสียหาย
  • แบตเตอรี่อาจเสียหาย
  • หัวพอตอาจแตกหรือหลุดออก
  • วงจรไฟฟ้าอาจลัดวงจร

นอกจากนี้ การตกหล่นหรือกระแทก อาจทำให้ Pod System เกิดรั่วซึม ซึ่งอาจทำให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าไหลออกมาภายนอก และอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ ดังนั้น จึงควรระมัดระวังในการพกพา Pod System หลีกเลี่ยงการตกหล่นหรือกระแทก โดยอาจใช้เคสหรือปลอกหุ้มเพื่อป้องกันความเสียหายได้ 

สนใจ Pod System ที่ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น เลือก C9 Shop เท่านั้น จะช้อป Pod System และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้ที่ C9 Shop คลิกเลย! 

ทำความรู้จักกับคอยล์บุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์สำคัญที่จะทำให้คุณสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน เพราะเป็นทางเลือกในการเลิกบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่แบบดั้งเดิม หนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญของบุหรี่ไฟฟ้าคือ คอยล์ ซึ่งมีหน้าที่ในการแปลงน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นไอน้ำ คอยล์ที่ดีจะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่น รสชาติ และปริมาณควัน

ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าอย่างละเอียด ตั้งแต่ประเภทของคอยล์ การเลือกคอยล์ให้เหมาะกับสไตล์การสูบ และการดูแลรักษาคอยล์เพื่อให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น ติดตามกันเลย 

ประเภทของคอยล์บุหรี่ไฟฟ้า มีอะไรบ้าง?

คอยล์บุหรี่ไฟฟ้าสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ 

  1. คอยล์แบบ Pre-Built  

คอยล์แบบ Pre-Built เป็นคอยล์สำเร็จรูปที่พร้อมใช้งานทันที มักทำจากวัสดุต่างๆ เช่น สแตนเลส นิกเกิล ไทเทเนียม เป็นต้น คอยล์แบบ Pre-Built มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับความต้านทานของคอยล์ โดยทั่วไปแล้ว คอยล์ที่มีค่าความต้านทานต่ำ (Sub-Ohm) จะให้ปริมาณควันมาก แต่อาจมีรสชาติที่บางกว่าคอยล์ที่มีค่าความต้านทานสูง (High-Ohm) 

  1. คอยล์แบบ RBA (Rebuildable Atomizer) 

คอยล์แบบ RBA เป็นคอยล์ที่ผู้ใช้สามารถประกอบและปรับแต่งได้เอง ประกอบด้วยส่วนประกอบหลักๆ ดังนี้

  • แทงค์ ทำหน้าที่เก็บน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
  • คอยล์ ทำหน้าที่แปลงน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าให้เป็นไอน้ำ
  • ดริปทีป์ ทำหน้าที่ดูดไอน้ำเข้าสู่ปาก 

คอยล์แบบ RBA มีข้อดีคือ ผู้ใช้สามารถปรับแต่งค่าความต้านทานของคอยล์ได้ตามต้องการ ช่วยให้ควบคุมรสชาติและปริมาณควันได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ คอยล์แบบ RBA ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าคอยล์แบบ Pre-Built 

  1. คอยล์แบบ Mesh 

คอยล์แบบ Mesh เป็นคอยล์ที่มีใยโลหะแบบตาข่าย ช่วยให้ความร้อนกระจายตัวได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการได้รับกลิ่นและรสชาติที่เข้มข้น คอยล์แบบ Mesh มักทำจากวัสดุต่างๆ เช่น สแตนเลส นิกเกิล ไทเทเนียม เป็นต้น

เลือกคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าให้เหมาะกับสไตล์การสูบ

ในการเลือกคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าให้เหมาะกับสไตล์การสูบ สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือ ความต้านทานของคอยล์ ความต้านทานของคอยล์จะส่งผลต่อปริมาณควันและรสชาติที่ได้รับ โดยคอยล์ที่มีค่าความต้านทานต่ำ (Sub-Ohm) จะให้ปริมาณควันมาก แต่อาจมีรสชาติที่บางกว่าคอยล์ที่มีค่าความต้านทานสูง (High-Ohm)

นอกจากนี้ คุณต้องพิจารณาถึง สไตล์การสูบ ของคุณด้วย หากสูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบ MTL (Mouth-To-Lung) ซึ่งเป็นการสูบแบบดั้งเดิมคล้ายกับการสูบบุหรี่แบบธรรมดา ให้เลือกคอยล์ที่มีค่าความต้านทานสูง (High-Ohm) จะช่วยให้คุณได้รับกลิ่นและรสชาติที่เข้มข้นขึ้น หากสูบบุหรี่ไฟฟ้าแบบ DL (Direct-Lung) ซึ่งเป็นการสูบแบบสูบเข้าปอดโดยตรง ให้เลือกคอยล์ที่มีค่าความต้านทานต่ำ (Sub-Ohm) จะช่วยให้คุณได้รับปริมาณควันมาก

ส่วนการสูบแบบ MTL เป็นการสูบแบบดั้งเดิมคล้ายกับการสูบบุหรี่แบบธรรมดา โดยใช้ลิ้นปิดปากไว้เล็กน้อยแล้วค่อยๆ สูบควันเข้าปอด การสูบแบบ MTL จะให้รสชาติที่เข้มข้นกว่าการสูบแบบ DL คอยล์ที่เหมาะสำหรับการสูบแบบ MTL ควรมีค่าความต้านทานสูง (High-Ohm) ตั้งแต่ 1.0 โอห์มขึ้นไป คอยล์ที่มีค่าความต้านทานสูงจะทำให้ความร้อนสะสมช้าลง ช่วยให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าระเหยช้าลงและได้รับรสชาติที่เข้มข้นขึ้น

ตัวอย่างคอยล์ที่เหมาะสำหรับการสูบแบบ MTL

  • คอยล์สแตนเลส 1.2 โอห์ม
  • คอยล์นิกเกิล 0.8 โอห์ม
  • คอยล์ไทเทเนียม 1.0 โอห์ม

การสูบแบบ DL เป็นการสูบแบบสูบเข้าปอดโดยตรง โดยไม่ต้องใช้ลิ้นปิดปาก การสูบแบบ DL จะให้ปริมาณควันมาก แต่อาจได้รับรสชาติที่บางกว่าการสูบแบบ MTL คอยล์ที่เหมาะสำหรับการสูบแบบ DL ควรมีค่าความต้านทานต่ำ (Sub-Ohm) ตั้งแต่ 0.3 โอห์มลงไป คอยล์ที่มีค่าความต้านทานต่ำจะทำให้ความร้อนสะสมเร็วขึ้น ช่วยให้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าระเหยเร็วขึ้นและได้รับปริมาณควันมาก

ตัวอย่างคอยล์ที่เหมาะสำหรับการสูบแบบ DL

  • คอยล์สแตนเลส 0.2 โอห์ม
  • คอยล์นิกเกิล 0.3 โอห์ม
  • คอยล์ไทเทเนียม 0.4 โอห์ม

สรุปแล้วการเลือกคอยล์ให้เหมาะกับสไตล์การสูบเป็นสิ่งสำคัญในการได้รับประสบการณ์ในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เต็มประสิทธิภาพ การพิจารณาความต้านทานของคอยล์และสไตล์การสูบของคุณจะช่วยให้คุณเลือกคอยล์ที่เหมาะสมได้ 

ดูแลรักษาคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำ รสชาติอร่อยกว่า 100 เท่า  

การดูแลรักษาคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยให้คอยล์ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น ดังนี้

  • เติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าให้เต็มเสมอ

การเติมน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าให้เต็มเสมอจะช่วยให้คอยล์ไม่แห้งและไหม้ คอยล์ที่แห้งและไหม้จะทำให้รสชาติของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนไปและอาจทำให้คุณได้รับอันตรายได้

  • ล้างคอยล์เป็นประจำ

การล้างคอยล์เป็นประจำจะช่วยขจัดคราบสกปรกและคราบไหม้ที่เกาะอยู่บนคอยล์ คอยล์ที่สกปรกจะทำให้รสชาติของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเปลี่ยนไปและอาจทำให้คุณได้รับอันตรายได้

  • เปลี่ยนคอยล์เมื่อหมดอายุ

คอยล์บุหรี่ไฟฟ้ามีอายุการใช้งานประมาณ 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากคอยล์ไหม้หรือมีควันแปลกๆ ให้เปลี่ยนทันที

การดูแลรักษาคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าอย่างเหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ในการสูบบุหรี่ไฟฟ้าที่เต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย  

C9Shop แหล่งรวมคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าคุณภาพดี แบรนด์ชั้นนำมากมาย เรามีคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าให้เลือกหลากหลายประเภท หลากหลายความต้านทาน ให้คุณสามารถเลือกคอยล์ที่เหมาะกับสไตล์การสูบของคุณได้อย่างลงตัวนอกจากนี้ เรายังมีบริการจัดส่งสินค้ารวดเร็วทันใจ ให้คุณได้รับคอยล์บุหรี่ไฟฟ้าที่คุณต้องการได้อย่างรวดเร็วสนใจสั่งซื้อคอยล์บุหรี่ไฟฟ้า คลิกเลย!